วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เที่ยวไหน?

 อยากไปเที่ยว

บ้านป่าหมาก ที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์

บ้านป่าหมาก ชุมชนกลางธรรมชาติ ประจวบคีรีขันธ์

 

      บ้านป่าหมาก เป็นชุมชนของชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงที่แอบซ่อนอยู่ท่ามกลางขุนเขาและสายน้ำที่ อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บริเวณใกล้ๆ ชายแดนไทย-เมียนมา ผู้คนที่นี่ต่างใช้ชีวิตบนพื้นฐานของความเรียบง่าย ส่วนใหญ่แล้วจะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก นั่นก็คือการเพาะปลูก กาแฟพันธุ์โรบัสต้า ซึ่งปลูกแบบอินทรีย์ปราศจากสารพิษ  นอกจากนั้นแล้ว ภายในชุมชนก็ยังมี โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก และ สำนักสงฆ์ป่าช้างขาว ที่เป็นสถานที่สำคัญของชุมชน

 

ไฮไลท์ บ้านป่าหมาก

 

บ้านป่าหมาก ที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์

 

      เมื่อมาถึงบ้านป่าหมากแล้ว เราจะสังเกตเห็น สะพานแขวนสีเหลือง ที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของชุมชนทอดยาวข้ามแม่น้ำลำธาร เป็นเส้นทางสันจรหลักที่เชื่อมทั้งสองฝั่งของหมู่บ้านเข้าด้วยกัน ก่อนจะพบกับ ร้านกาแฟโรบัสต้าป่าช้างขาว ร้านกาแฟของชุมชนที่เสิร์ฟกาแฟหอมกรุ่นจากไร่ รวมถึงเครื่องดื่มอื่นๆ ให้เราได้จิบพลางดื่มด่ำกับธรรมชาติสีเขียว และสายน้ำที่ไหลริน อีกทั้งยังมีของที่ระลึกขายเพื่อนำรายได้ไปพัฒนาชุมชนด้วยค่ะ

 

ร้านกาแฟโรบัสต้าป่าช้างขาว บ้านป่าหมาก ที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์

 

ลานกางเต็นท์ บ้านป่าหมาก

 

บ้านป่าหมาก ที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์

 

      หากกำลังมองหาสถานที่เงียบสงบ และธรรมชาติบำบัดอยู่ล่ะก็ ลองมากางเต็นท์นอนที่ ลานกางเต็นท์บ้านป่าหมาก ดูค่ะ รับรองว่าได้พักผ่อนกลางธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่มแน่ๆ ลานกางเต็นท์สามารถรองรับเต็นท์ได้ประมาณ 30-40 หลัง ซึ่งที่นี่เขาจะบริการเช่าเต็นท์นอนสำหรับ 2 คน ส่วนใครที่นำเต็นท์มาเองก็จะสามารถชำระแค่ค่าบำรุงสถานที่เท่านั้น ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้น ที่นี่จะมีห้องน้ำบริการให้กับนักท่องเที่ยว แต่จะไม่มีไฟฟ้าใช้ เพราะฉะนั้นควรเตรียมอุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปให้พร้อมค่ะ 

 

ข้อมูล บ้านป่าหมาก ประจวบคีรีขันธ์

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

มหาลัยหรือคณะต่างๆ

 

เรื่องทั่วไป
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีชื่อย่อว่า มช.
- มีสัญลักษณ์ เป็นรูปช้างชูคบเพลิง

คณะ
- คณะแพทยศาสตร์เป็นคณะที่มีอายุมากกว่า มช. (ก็ตอนแรกเป็นโรงเรียนแพทย์ที่ตั้งมาก่อน มช. นี่นา)
- มช. มีวิทยาลัยเปิดใหม่เมื่อปี 2549 เป็นปีแรกชื่อว่า "วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี (College of arts,media and technology : CAMT)" เมื่อมีคนถามเด็กในคณะนี้ว่าเรียนคณะไหน จะตอบหรือแนะนำสั้นๆ ว่า "วิลัยสื่อ" หรือไม่ก็ "แค๊มท์"
- คณะสัตวแพทยศาสตร์ กับ คณะอุตสาหกรรมเกษตร มีที่ตั้งของคณะห่างจาก มช. ไปอีกหลายกิโล เรียกว่าฝั่งแม่เยะ ส่วนคณะสายวิทยาศาสตร์สุขภาพจะไปกองอยู่ที่ฝั่งสวนดอก ซึ่งคณะส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณเดียวกัน คือ ฝั่งสวนสัก

สถานที่
- เสียงระฆังของหอนาฬิกา ใช้ลำโพงกระจายเสียง ซึ่งหอนาฬิกาจะ ตั้งเวลาช้าไป 5-10 นาที
- อ่างแก้ว มีชื่อมาจากน้ำห้วยแก้วที่ไหลลงมาจากดอยสุเทพ
- การดับไฟป่าบนดอยสุเทพจะใช้น้ำที่ขนโดยเฮลิคอปเตอร์จากอ่างแก้ว
- หลังสี่ทุ่ม ห้ามอยู่ที่อ่างแก้ว ไม่เช่นนั้น.........................................อาจโดนพี่ยามไล่
- ในอ่างแก้วมี ปลามังกร ปลาเทวดา ปลาคาฟพ์ ที่คนเบื่อเลี้ยงแล้วเยอะเลยนะ
- ห้ามตกปลาที่อ่างแก้วมากิน (แต่เคยมี คนตกมันมาทำยำปลาในหอพักแล้ว)
- เคยมีคนตกปลาในอ่างแก้ว แล้วมาชำแหละในห้องน้ำหอสามชาย
- อีกกระแสหนึ่งก็เล่าว่าอ่างเก็บน้ำของ มช. เรียกว่า อ่างแก้ว เพราะเป็นอ่างขนาดใหญ่และมีเศษแก้วแตกจากขวดเหล้าที่นักศึกษาไปนั่งดื่ม
- ถ้าวิดน้ำออกจากอ่างแก้ว สิ่งที่จะพบคือ ขวดเหล้า แก้ว รองเท้า ปิ๊ก กีตาร์ กระเป๋า สมุดเปื่อยๆ เกียร์ทอง (เอามาทิ้งตอนเลิกกัน)
- ถ้าวันหนึ่ง อ่างแก้วแห้งเหือด สิ่งที่จะพบ คือ ดิน หิน ขวดเหล้า และเกียร์เงิน (บางทีอาจมีเกียร์ทอง !?!?) เพราะอะไรนั่นหรือ ก็เพราะมันเลิกกัน ก็เลยเอามาขว้างไง
- (อยู่นอกมอไปนิด) อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยเป็นสถานที่ที่คนไปสักการะตลอดเวลา (ตี 4 ยังมีไปเรื่อยๆ นะเอ้า แล้วไม่ขาดสายด้วย)
- ตึกใน มช. ไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างสูงเกินกว่า 100 เมตร (100 เมตรกับอีกนิดหนึ่งมั้ง จำไม่ได้) ตามกฎเทศบัญญัติที่ไม่ต้องการให้สร้างอาคารสูงบดบังดอยสุเทพ (จริงๆก็บังคับทั้งเมือง นั่นแหละ)
- RB5 มีแอร์ทุกห้อง แต่ห้องเล็กจะมีไว้เปนที่พึ่งทาง ใจ
- ใต้ RB5 เป็นที่ซ้อมอย่างดีของเด็กบอร์ดและบีบอย
- ตึก Drawing คณะวิศวกรรมศาสตร์ 4 ชั้น มีบันได ไม่ใช้เสา อายุราว 40 ปีได้
- ลิฟท์ตึก SCB1 คณะวิทยาศาสตร์ มีสามช่องลิฟท์ แต่มีใช้แค่สอง ตัวอีกช่องปิดตาย
- ห้อง Slopeที่จุคนได้มากที่สุดในมช.อยู่ที่ภาควิชาฟิสิกส์ ติดกับ SCB2 (คือห้อง SCB2100... เห็นคณบดีเขาว่ามาอย่างนั้น)
- ตึก Com Science แอร์ในห้องแล๊คเชอร์จะถูกล๊อคไว้แม้จะแอบเปิดก็จะไม่ติด
- สมาชิกสระว่ายน้ำรุจิรวงศ์ เสียค่าบริการครั้งละ 5 บาท
- สนามซอฟท์บอล (สนามฮอกกี้?) เอาไว้เล่นฟุตบอล (มีแต่ชาวเขา) นอกจากนี้เป็นที่ตั้งเสารังวัดของวิชา Servey ของพวกวิศวะโยธา เหมือนในมหา'ลัยเหมืองแร่ไง
- สนามน็อคบอร์ดบริเวณคณะศึกษาศาสตร์
-โรงเรียนสาธิตมักถูกใช้เตะฟุตบอลมากกว่าเล่นน็อคบอร์ด
- ห้องน้ำที่สะอาดที่สุดใน มช. คือห้องน้ำคณะมนุษยศาสตร์
- ห้องชมรมดนตรีกลางของ มช. มักไม่ค่อยมีผู้หญิงกล้าเข้า ไป
- สถานที่ที่สามารถพบสาวแจ่มๆ ได้ง่ายๆ คือ ตึกคณะมนุษยศาสตร์, ตึก RB3 และ RB5
- กู๊ดโฮป มีแท่นอยู่ เป็นอนุสรณ์ให้คนที่ล่วงลับ
- ถนนในมอจะเป็นเนินๆ เยอะมาก
- ถนนใน มช. ไม่เท่ากันซักสาย เพราะตั้งอยู่บนพื้นที่เชิงเขา
- เด็ก มช. สามารถเรียกมหาลัยตัวเองได้เต็มปากว่า มหาลัยมีระดับ เพราะถนนในมช.เล่นระดับพอสมควร

- ที่ มช. จะเรียกรถโดยสารจะเรียกว่า "ขส.มช." และเมื่อก่อนเรียกรถราง (ที่ไม่ได้วิ่งบนราง) ตอนนี้เป็น "รถไฟฟ้า" สีขาวม่วง (เคยเปลี่ยนเป็นสีส้มตอนกีฬามหาวิทยาลัย เพราะ Orange เป็นสปอนเซอร์)
- ในอดีตเคยมีรถไฟฟ้า แต่ต่อมาก็ไม่มีอีก เนื่องจากปัจจัยเรื่องเงิน และความยากลำบากในการประจุแบตเตอรี่ แต่ในปี 2550 นี้ มันได้กลับมาอีกครั้ง และบางคนอาจเคยเห็นชายคนหนึ่ง กำลังขี่จักรยาน แล้วมาเจอรถไฟฟ้ากำลังแล่นมาพอดี จึงเข้าเกาะรถไฟฟ้า เพราะ (อยู่หอนอกแล้ว แต่มัน...) ไม่มีรถยนต์หรือ จยย. ต้องถีบรถ จักรยานด้วยความจำใจ
- มีอยู่ช่วงหนึ่งถ้า จะขี่รถจากซุ้ม MC ข้างคณะมนุษยศาสตร์ไปหอสมุดกลางต้องขับรถรอบมหา'ลัย หนึ่งรอบ เพราะถนนใน มช. ตอนนั้นกลายเป็น one way (ทั้งๆที่ห่างกันไม่ ถึง100 เมตร)
- ประตูข้างหน้ามอ ประตู ไผ่ล้อม ประตูศึกษา ประตูวิศวะ ถูกปิดตาย ส่วนประตูเกษตร และประตู ปตท. เปิดปิดเป็นเวลา
- หน้าประตูเกษตร หลังจากปิดประตูตามเวลาแล้ว คนมักจะใช้เป็นที่จอดรถทุกวัน
- ประตูเล็กหน้า มช. เมื่อก่อนเปิด แง้มๆไว้ให้ นศ.ออกไปซื้อของได้ หลังจากนั้นมีนโยบายให้ปิดประตูเล็ก นศ. จึงทำการไป"เลื่อย" ซี่กรงออกให้ลอดออกได้ เคยไปยืนดูเล่นๆ เห็นทั้งอาจารย์อายุ50กว่าๆ และผู้บริหารใส่สูท ก็มาลอดซี่กรงนี้เช่นกัน ปัจจุบันซี่กรงถูกปิดไปแล้ว เด็กสาธิตตัวเล็กๆยังปืนรั้วออกได้ แต่คนแก่กว่านั้นต้องเดินอ้อมไกลๆสถานเดียว (จะปิดทำไมฟะ)
- เมื่อก่อนรั้ว มช. ไม่ได้มีสีม่วง เพิ่งมาเปลี่ยนเมื่อไม่กี่ปีมานี่แหละ (ดูแปลกๆ นะผมว่า)

CMU Life Style
- พอถึงฤดูหนาว ปี 1 ทุกคณะ จะทำเสื้อหนาวของคณะตัวเอง
- ผู้ชายมนุษยศาสตร์ ภาษาจีน และผู้ชายคณะพยาบาลศาสตร์เป็นสิ่งมีชีวิต ใกล้สูญพันธุ์ (ปัจจุบันปี 2549 มีผู้ชายปีหนึ่งคณะพยาบาลศาสตร์... เพียงคนเดียว นอกนั้นเป็นผู้หญิงหมด... น่าอิจฉาจริงๆ พยาบาลปีหนึ่งน่ารัก น่า...ทั้งนั้น
- ในวิศวะ ผู้ชายเป็นคนทั่วไป แต่ผู้หญิงเป็นสมบัติคณะ
- เพื่อนที่เข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ใหม่ๆ เป็นสมบัติคณะ แต่พอมีงานในคณะแล้วมันขึ้นไปเต้นบนเวที คำสรรพนามที่เพื่อนๆ
-พี่ๆ เคยเรียกว่า น้องมิ้นท์ กลับกลายเป็น อีมิ้นท์ ทันทีที่มันเริ่มเต้น และมันหมดค่าในเวลาแค่ชั่วเพลงจบ
- สาวไหนเป็นแฟนเด็กวิศวะ มักจะได้เกียร์เงินติดตัวเสมอ
- เป็นความจริงที่ว่าส่วนใหญ่สาวมนุษย์มักคู่กับหนุ่มวิศวะ แต่ปรากฎว่าชายวิศวะบางคนกลับพิสมัยผู้หญิงวิศวะด้วยกันเอง
- เกษตรกะวิศวะ ไม่ถูกกันสักที ไม่รู้เป็นไรวิศวะก็ซิ่วมาเกษตร เกษตรก็ซิ่วไปวิศวะออกบ่อยไป
- ตึก IE (Industial Engineering )ของวิศวะ มีห้องฟิตเนส
- สโมสรมนุษย์ ก็ มีฟิตเนสเป็นของตัวเอง
- ผู้ชายมนุษย์ มักจะขายไม่ค่อยออกในคณะตัวเอง เป็นสินค้าส่งออก แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ สวยแค่ไหนก็ มักจะขึ้นคาน
- ผู้ชายมนุษย์ไทยจะติดกิ๊บเป็นทุกคน คนละสามตัวเป็นอย่างต่ำ
- สาวมนุษยศาสตร์ ภาษาญี่ปุ่น ถูกยกให้เป็นภาควิชาที่เฉลี่ย แล้วหน้าตาน่ารักมากที่สุด
- แม่บ้านภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ ที่บ้านมีสระว่ายน้ำ
- เพลงคณะวิทยาศาสตร์ คนต่างคณะมักจะได้ยินว่า "พวกเรา เต่านินจ๊า...."
- เมื่อปีที่แล้วคณะบริหารธุรกิจจะมีหน่วยตรวจตราการแต่งกายอยู่ข้างล่างแล้ว ใช้โทรโข่งป่าวประกาศ หากแต่งกายไม่สุภาพ ส่วนถ้าแต่งกายสุภาพจะปรบมือให้
- คณะเกษตรศาสตร์ มีร้านดอยคำ
- เด็กผู้ชายปีหนึ่งคณะวิจิตรศิลป์ทุกคนต้องเริ่มเลี้ยงผมยาวใหม่ เท่ากันหมด เพราะเข้ามาปีหนึ่งถูกจับตัดเกรียนหมดทุกคน
- คณะวิจิตรศิลป์ มช.ไม่ค่อยมีใครใส่ชุด นศ.ไป เรียน ยกเว้นไข่ย้อย กับดากานดา
- นศ. ขี่มอ'ไซมาเรียนเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าจะใส่กระโปรงก็ตาม
- ผู้ชายคนไหน ถ้าอยู่ชมรม วอลเลย์ฯ แล้วพูด ป่าวๆว่าตัวเองเป็นแมน ยังไง๊ยังไงก็ไม่ใช่ผู้ชาย
- สาว มช. ที่น่ารัก 50% จะมีแฟนแล้ว ส่วนคนน่ารักที่เหลือจะเป็น ดี้
- เมื่อก่อนเว็บ Dekmor เป็นที่นักศึกษาเข้ามากที่สุด แต่ปัจจุบันร้างอย่างกับป่าช้า ไม่ค่อยมีคนใช้
- อ.เอก AccBa มาเล่นเว็บบอร์ดกับนักศึกษา
- ในเว็บบอร์ด CMUpark มีคนใช้ชื่อว่า ตันฮก (ซัม วิ วะ) แต่ไม่ได้เรียนวิศวะ แถมโดนรีทรายไปแล้ว
- มช. เคยมีคณะคาบาเร่ย์เก่าแก่ ชื่อ Rose Paper... ปัจจุบันนี้ไม่ มีอีกแล้ว
- วง HUM มีต้นกำเนิดมาจากชมรมดนตรีกลางของมช.
- หน้ามอก็เดินกันได้เดินกันดี ไปกันทุกวัน ทั้งๆ ที่ไม่รู้จะซื้ออะไร แต่ตั้งแต่ย้ายมาที่ใหม่ดูเหงาไปนะ
- เด็ก มช. ถ้าอายุไม่ ถึง 20 ส่วนมากชอบไปเที่ยว old school เพราะตรวจบัตร 18+
- ภาพยนตร์ หรือละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ มช. แทบไม่เคยได้รับอนุญาตให้ถ่ายทำภายในเขตมหาวิทยาลัย
- คนที่ใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทาง (ส่วน ใหญ่มักจะใช้มันด้วยความจำใจ มักจะเกิดจากการที่หอในห้ามมี จยย. หรือ รถยนต์ไว้ใช้ แต่คนบางคนน่ะมันไม่มีจะขี่จริงๆ) มักจะเหนื่อยกับการ ปั่นขึ้นตรงเนินหอสมุด แต่ถ้าคิดว่ายังเด็ก ๆ ให้ไปลองปั่นแถวเนินคณะเศรษฐศาสตร์ดูแล้วจะติดใจ

ชีวิตเด็กหอ
- มช. ห้ามนักศึกษาหอใน ใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ (แต่ก็แอบใช้กันอ่ะนะ)
- มช. เคยมีเทศกาลเปิดหอ ให้ชายขึ้นหอหญิง ให้หญิงขึ้นหอชาย สลับกันหนึ่งวัน...แต่ละห้องจะต้องมีของกินเลี้ยงคนที่มาเยี่ยมห้องด้วย
- หอพักชายคณะแพทยศาสตร์เรียกกันว่า " หอช็อค" ซึ่งเต็ม ๆ มาจากชื่อหอ "ช็อคโกแล็ต" ตามสีที่ทา
- อดีตหอ 1 ชาย ปัจจุบันกลายเป็นหอหญิง
- ใต้หอ 4 ชาย ช่วงกลางวันจะมีคนมาเป่านกหวีดไล่คนที่มาจอดรถ ที่หน้าหอทั้งฝั่งหอ 4 ชาย และหอ 6 หญิง มีสมญานามว่า "เจมส์บอนด์"
- หอ 2 หรือ 7 ชาย มีสาวกหงส์แดงเยอะ ส่วนหอ 1 หอ 6 ชาย มีสาวกปิศาจแดงเยอะ(ไปเชียร์บอลใต้หอไหน ก็อย่าไปเชียร์ผิดหอนะ บางคนเชียร์ผีแดงแต่ดันไปเฮตอนผียิงประตูเข้านัดแดงเดือดที่หอ 2 T_T รอด มาได้ไงนะ)
- หอ 6 ชาย เคยถูกเรียกว่า Sun เพราะกะเทยหอนี้ไม่สวย แต่หอ 3 ชาย เรียกว่า Rose เพราะกะเทยสวย (เค้าว่ากันนะ)
- หอ 2 ชาย ชั้นล่างเป็นชั้นเดียวที่ไม่ต้องตรวจบัตร
- หอ 3 ชาย มีชักโครก
- หอ 3 ชายมีร้านถ่ายรูป (กด ติด วิญญาณ) ถ่ายออกมา....ทุกคน
- ช่างประจำหอ 3 ชาย มีไซด์ไลน์ขับรถแดงชื่อลุง รัญ
- ร้านเลมอนกรีน หอ 4 ชาย เปิด 24 ชั่วโมง คนเข้าออกไม่ขาดสาย เข้าไปทีไรเจอลูกค้าอย่างน้อย 2 คน ทุกที
- หอ 4 ชาย มีร้านเลมอนกรีน ที่มีขายตั้งแต่ของกินยันแปรงขัดส้วม
- ยามเฝ้าหอ 4 ชาย ฝั่งซ้ายกะเช้า เด็กหอให้สมญานามว่า "ป้า ทอม"
- ใต้หอ 4 ชาย ท่อน้ำบนเพดานไม่ซ่อมซักที ส่งกลิ่นเหม็นโชยเป็น ระยะๆ (ข้างบนเป็นห้องน้ำ)
- หอ 6 ชาย สามารถทักทายคนที่อาบน้ำ ห้องข้างๆได้ ด้วยการชะโงกหน้า
- หอ 7 ชาย จะต้องหาผ้าม่านมาใส่เอง
- ว่ากันว่า หอ ในทั้งหมด หอ 8 หญิงจะเป็นหอที่สาวน่ารักที่สุด รองจากหอ 40 ปี
- หอ หญิงแทบจะทุกห้อง ล้วนมีถังพลาสติกผูกเชือกเอาไว้ฝากเพื่อนส่งเสบียงขึ้นหอ
- หอ 2-3 หญิง เป็นตึกรูปแปดเหลี่ยมและรูปสายฟ้า เพราะสร้างบนเมืองเก่า จึงออกแบบมาเพื่อแก้เคล็ด แต่บางตำราก็ อ้างว่าหอ 3 กับ 2 หญิง มช ไม่ได้สร้างทับ "เมือง" แต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า เป็น "จุดเผาศพ" เก่า และพื้นที่ของฝั่งสวนสัก ก็คือ "สุสานและสนามรบโบราณ" หอหญิงรูปแปดเปลี่ยมว่าเป็นที่กัก และหอรูปสายฟ้าให้ผ่าเพื่อให้สยบ
- หอ 8 หญิงมีห้องอาถรรพ์สีชมพู
- ในอดีตใต้หอ 8 หญิง เคยมีร้าน AM-PM
- มีลุงหอย...ที่รับจ้าง dub เทปหน้าหอ 8 หญิง
- หอพัก 40 ปี ตอนแรกแบ่งสองซีกชายครึ่งหญิงครึ่ง ไปๆ มาๆ ให้ผู้ชายอยู่ได้แค่เทอมเดียวเพราะห้องฟากผู้ชายมันไม่เต็ม ตอนนี้กลายเป็นหอหญิงล้วนไปซะแล้ว (เรื่องเงินสถานเดียว)
- บางครั้งทีวีใต้หอชาย ก็ดูละครน้ำเน่า แต่หอหญิงดันเปิดดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (แต่โดยปกติแล้วมันไม่เป็นเช่นนั้น)

ชีวิตการเรียน
- วันวาเลนทายปีนี้ของเด็กมอชอมีความหมายอันสำคัญยิ่ง คือ เป็นวันสอบไฟนอล.... ขืนมัวแต่ไปหนุงหนิงกะแฟน มีหวัง "ทาย(รีไทร์)" แน่นอน
- ช่วงสอบ นศ. จะชอบออกมาอ่านหนังสือโต้รุ่งตามใต้ ตึกต่าง ๆ
- ถ้าจะ Drop ควรไตร่ตรอง แล้วรีบ Drop ก่อนวันสุดท้ายประมาณ 2 วันกำลังดี เพราะวันสุดท้าย แถวคิว Drop จะยาวมากๆ
- วันสุดท้ายของการ Drop ที่สำนักทะเบียนคนจะเยอะมากกกกกกกกก และ ใบ Drop เป็นของหายาก
- วิศวะ ... จบ 3.5 - 4 ปี = พระเจ้า
- ที่ภาควิชาฟิสิกส์ มีหมาชื่อคุณตึ๋งเป็นเทอร์เรียสีขาว ชอบเข้าไปนั่งฟังบรรยายวิชาปีหนึ่ง จนอาจารย์บอกว่าถ้ามันเป็นคนคงจะจบด็อกเตอร์มานั่งสอนนักศึกษาแล้ว
- ภาควิชาเคมีมีอาจารย์ที่เอาเชือกมามัดไมค์แล้วคล้องคอในทุกๆ
คาบจนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว และทำมาตั้งแต่รุ่นแม่ และยังไม่เลิกทำ
- คณะมนุษยศาสตร์ มีวิชาเลือกเสรีเป็นว่ายน้ำ เวลาเรียน คือ 08.00 หน้าหนาวด้วย
- อ.อาร์ท (Arthur) สอน Eng 3 สอนสนุก ชมบ่อยๆ เวลาพรีเซนต์ แต่ความจริงคือให้ F กระจาย
- อ.ภาษาอังกฤษที่ชื่อ Peter K. (ตัว K นี้น่าจะย่อมาจาก Kuay) ทำให้เด็กใน Sec. ขอย้าย Sec. เรียกยกทั้ง Sec. เพราะสั่งงานงี่เง่า จี้กระทั่งเรื่องไร้สาระ และแจก F ยก Sec. ก็เคยมาแล้ว (เด็กได้ยินจากรุ่นพี่ที่เคยเรียนด้วย เลยขอย้าย Sec.)

ประเพณีและกิจกรรม
- ที่ มช. มีประเพณีรับน้องรถไฟ รับน้องปีหนึ่ง จาก กทม. และจังหวัดใกล้เคียงขึ้นรถไฟจาก กทม. มาเชียงใหม่ ต้องนั่งหลับกันตลอดคืนเลย พอถึงเชียงใหม่ตอนเช้าพี่ก็จะพาไปไหว้พระที่หน้ามอ (ไม่รู้ยังมีอยู่ป่าว)
- ปี 49 รับน้องรถไฟโดนงดเพราะดินถล่มรางขาด
- เด็กจากจังหวัดอื่น ถ้ามาเรียน มช. ปีแรก ไม่ต้องกลัวหลง เพราะอยู่ไปสักเดือนจะชินทางเอง
- โค้งสปิริตกับโค้งขุนกัณฑ์ (โค้งสุดท้ายก่อนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ) เป็นชื่อของโค้งเดียวกัน
- เวลาขึ้นดอย วิศวะมักจะบ้าเลือดมาจากไหนก็ไม่รู้ ว่าต้องวิ่งขึ้น วิ่งลงเท่านั้น
- เวลาขึ้นดอย วิศวะมักจะบ้าเลือดมาจาก ไหนก็ไม่รู้ว่าต้องขึ้นที่หนึ่งเสมอ ถ้าปีไหนไม่ได้ที่หนึ่ง...... ปีหนึ่งซวย มีอยู่ปีหนึ่ง มีคณะหนึ่งแซงวิศวะได้ไปถึงก่อน แต่ไม่ยอมแบกเกี้ยวขึ้นไป....
- งานน็อต (เขียนว่า NUT แต่อ่านว่า น็อต เพราะ nut แปลว่าน็อต) ซึ่งเป็นการแสดงของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้กลับมาอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว
- วีน (สมาพันธ์กะเทยมีการศึกษา) กะเทยไม่จำเป็นต้องเข้าก็ได้
- มีประเพณีวีน (รับน้องของพวกสาวประเภท 2 ) ซึ่งปี 1 ห้ามแต่งหญิงเด็ดขาดไม่งั้นโดน
- สถานที่พระราชทานปริญญาบัตร แต่เดิมคือ ศาลาอ่างแก้ว ปัจจุบันย้ายไปที่หอประชุม มช.
- ดอกไม้จะมีทั่วมอ ในช่วงวันรับ ปริญญา
- หลังศาลพระภูมิ จะโดนมนุษย์ไทยยึดหัวหาดเสมอในวันรับปริญญา
- สปอร์ตเดย์ทีไร สแตนด์คณะแพทยศาสตร์หรูเลิศอลังการงานสร้างทุกปี ...
- หลีดวิศวะ เน้นความแข็งแรง และจะมีหลีดผู้หญิงน้อยกว่าหลีดผู้ชายเสมอ
- ตั้งแต่ ปี48 เป็นต้นมา ผู้ชายมนุษย์ เน้นความถึก บึกบึน แข่งกับวิศวะ
- ช่วงไคลแมกซ์ในงาน กีฬามหาลัยมีคนดูเยอะกว่าตอนแข่งกีฬาหลายเท่า (ช่วงไคลแมกซ์ เป็นช่วงโชว์หลีด โชว์สแตนท์ ร้องเพลงประจำคณะ ฯลฯ ซึ่งเริ่มต้นหลังพระอาทิตย์ตกดิน)
- มช.มีการจัด silence Zone (นำหน้าท่านปุระชัย) อยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่สำเร็จ
- บัตรเข้า มช. ของรถทุกคันจะหยุดอยู่ที่ปี 49 เพราะไม่มีการทำบัตรใหม่กันแล้ว
- บัตรนักศึกษา มช. เป็นบัตร ATM ได้ด้วย (ธนาคารไทยพาณิชย์) แต่ถ้าไม่อยากใช้ก็ไม่ต้องเอาเงินไปเข้าบัญชีก็ได้ บัตรนั้นจะกลายเป็นแค่บัตรประจำตัวธรรมดาๆ
- การแจกของ เป็นการคลายเครียดอย่างหนึ่งในช่วงการสอบคำง่ายๆ ที่ใช้แจกกันก็คือ "(อวัยวะเพศชาย)!!!!!!!!!!" แต่จริงๆ สบถคำไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ
- ประเพณีการแจกของ ไม่ใช่การโยน คุกกี้ขึ้นหอหญิงแต่อย่างใด แต่มีคนเคยทำมาแล้ว
- เวลาไฟดับจะเกิดปรากฎการณ์แจกของ โดยเฉพาะย่านหอพัก
- เวลาไฟดับ นศ. ชายจะชอบขี่รถมาแจกของตามหอหญิงเลยโดนนศ.หญิงแก้เผ็ดด้วยการเอาน้ำ(บางทีก็น้ำร้อน)สาด
- ว่ากันว่าวันไหนไฟตก ไฟดับจะมีโอกาสได้แจกของสูง
- แต่ปกติตอนดึกๆ ช่วงสอบมันก็แจกกันอยู่แล้ว แต่ไม่ครึกครื้นเท่าตอนไฟ ดับ
- บางทีมีผู้หญิงมาแจกของด้วย แต่ส่วนมากจะเป็นผู้ชาย คำยอดฮิตก็ ค...ย, เอี้......ย, ส..า..ด

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

สถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาว

 

เที่ยวเขาใหญ่

 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

 

เที่ยวเขาใหญ่ วังน้ำเขียว 1 วัน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

 

        เราเริ่มต้นทริปกันด้วยการไปปักหมุดที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ค่ะ ซึ่งตรงที่ทำการอุทยานฯ นั้นจะมี ศูนย์บริการนักท่องเที่ย นั่นเอง และตรงนี้ยังเป็นจุดเดินเที่ยวชมนิทรรศการที่เกี่ยวกับเขาใหญ่อยู่ที่ด้านในค่ะ

 

เที่ยวเขาใหญ่ 1 วัน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

 

     ภายในก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับ ประวัติของอุทยานแห่งชาติเชาใหญ่ ตำนานผืนป่าดงพญาเย็น และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่น่าสนใจค่ะถัดไปก็จะเป็นเรื่องราวของสัตว์ป่า ทั้งเสือ กระทิง แมวดาว และอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการสัตว์ป่าที่สต๊าฟไว้ให้เราได้ชมอีกด้วย

 

เที่ยวเขาใหญ่ 1 วัน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เที่ยวเขาใหญ่ 1 วัน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เที่ยวเขาใหญ่ 1 วัน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เที่ยวเขาใหญ่ 1 วัน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่เที่ยวธรรมชาติ

 

       ออกมาหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็จะมีร้านกาแฟเล็กๆ ตั้งอยู่ค่ะ ถัดไปข้างๆ ก็จะมีกระสานเชือกข้ามแม่น้ำ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกองแก้ว โดยเราสามารถเดินเข้าไปชมเองได้โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางค่ะ

 

เขาใหญ่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เที่ยวเขาใหญ่

null

===================

 

2. น้ำตกเหวสุวัต เขาใหญ่

 

เที่ยวเขาใหญ่ 1 วัน น้ำตกเหวสุวัต One Day Trip


     น้ำตกเหวสุวัต เป็นที่ต่อไปที่เรามาแวะชมธรรมชาติกันค่ะ น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร และมีจุดให้เดินชมวิวได้ทั้งส่วนที่อยู่บนหน้าผา และบริเวณด้านล่างของน้ำตก เป็นน้ำตกยอดฮิตมากๆ ของคนที่มาเที่ยวเขาใหญ่ เพราะไม่ต้องเดินไปไกลมากค่ะ

 

เที่ยวเขาใหญ่ วังน้ำเขียว 1 วัน น้ำตกเหวสุวัต

 

       อีกทั้งที่ด้านล่างของน้ำตกจะเป็นแอ่งน้ำใสเย็นสดชื่น ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำได้อยู่ค่ะ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของอุทยานฯ เพื่อความปลอดภัยด้วยน้า ถ้าช่วงไหนที่มีน้ำเยอะ หรือช่วงหน้าฝนตกหนักๆ ก็อาจจะไม่เปิดให้ลงเล่นน้ำค่ะ

🌲 ดูรีวิวเต็มๆ ที่ น้ำตกเหวสุวัต เขาใหญ่ ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ น้ำตกสวย สุดอลังการ ในป่าใหญ่

 

แจกแผนเที่ยว เขาใหญ่ 1 วัน น้ำตกเหวสุวัต

===================

 

3. a Cup of Love วังน้ำเขียว

        ลงจากเขาใหญ่ ไปต่อกันที่ วังน้ำเขียว ผ่าน อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง มาแป๊ปเดียวก็ถึงแล้วค่ะ คาเฟ่น่านั่งในวังน้ำเขียว a Cup of Love ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่คาเฟ่อย่างเดียว แต่มี ฟาร์มแกะ ให้เราได้เข้าไปให้อาหารน้องแกะ และเดินถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วย 

 

เที่ยววังน้ำเขียว 1 วัน a Cup of Love วังน้ำเขียว

 

        a Cup of Love เป็นร้านกาแฟที่มีธีมสีแดงขาว มีคำว่า Love ตัวใหญ่มากค่า (ฮ่า) มีมุมสวยๆ ให้เดินถ่ายรูปเล่นเพลินๆ ข้ามสะพานเชือกถัดมาเป็นฟาร์มแกะค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า เราสามารถซื้ออาหาร และให้หญ้ากับน้องแกะได้ และยังสามารถถ่ายรูปกับน้องแกะได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วยนะ น่ารักมาก ค่าเข้าชมฟาร์มแกะคนละ 100 บาท และสำหรับค่าอาหารให้น้อง 20 บาท ค่ะ 

 

เที่ยววังน้ำเขียว 1 วัน a Cup of Love วังน้ำเขียว ฟาร์มแกะ

เที่ยววังน้ำเขียว 1 วัน a Cup of Love วังน้ำเขียว ฟาร์มแกะ

เที่ยววังน้ำเขียว 1 วัน a Cup of Love วังน้ำเขียว ฟาร์มแกะ

เที่ยววังน้ำเขียว 1 วัน a Cup of Love วังน้ำเขียว ฟาร์มแกะ

คาเฟ่วังน้ำเขียว a Cup of Love วังน้ำเขียว

===================

 

4. วัดบุไผ่ หรือ วัดบ้านไร่ 2

 

เที่ยววังน้ำเขียว 1 วัน วัดบุไผ่

Ipsimus / Shutterstock.com


       ปิดท้ายทริปกันด้วยการมากราบรูปหล่อ องค์หลวงพ่อคูณใหญ่ที่สุดในโลก ที่ วัดบุไผ่ หรือ วัดบ้านไร่ 2 ซึ่งตั้งยู่ในวังน้ำเขียวนี่เอง

       วัดบุไผ่ นั้นเป็นวัดที่ หลวงพ่อคูณ ได้บริจาคเงินเพื่อใช้ในการก่อสร้าง เพื่อเป็นศาสนสถานที่สำคัญให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ และเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างรูปหล่อองค์หลวงพ่อคูณองค์ใหญ ทำให้มีประชาชนมาสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลมากมายเลยค่ะ

 

เที่ยวเขาใหญ่ วังน้ำเขียว 1 วัน วัดบุไผ่ วัดบ้านไร่ 2 หลวงพ่อคูณ

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

สถานที่ลอยกระทง

 

งานประเพณียี่เป็ง ลอยกระทง 2565 เชียงใหม่

 

ประเพณียี่เป็ง ลอยกระทง 2565 เชียงใหม่

 

     ลอยกระทง ปีนี้ พลาดไม่ได้เลยที่จะขึ้นเหนือ ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ในช่วงหน้าหนาว และไปเที่ยวกันใน งานลอยกระทง เชียงใหม่ หรือ งานประเพณียี่เป็ง เชียงใหม่ 2565  ซึ่งปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ "ความสุขแห่งสายน้ำ ปิงนครามหานที" โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7 - 9 พฤศจิกายน 2565 นี้ บริเวณท่าน้ำศรีโขง ด้านหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม

     สำหรับไฮไลท์ภายในงานปีนี้เลยก็คือ การประกวดกระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทาน ซึ่งจะกลับมาในรูปแบบขบวนแห่รวมกว่า 20 ขบวน อีกทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็น ประติมากรรมโคมไฟล้านนา ในเราได้ไปถ่ายรูปสวยๆ การประกวดโคมแขวนแบบล้านนา การประกวดเทพี - เทพบุตร ยี่เป็ง เชียงใหม่ การแสดงม่านน้ำแสงสีเสียง สื่อผสม การประกวดกระทง และอื่นๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกมากมายที่จะทำให้งานลอยกระทงปีนี้คึกคักมากๆ เลยทีเดียว 

  • สถานที่จัดงาน : บริเวณท่าน้ำศรีโขง ด้านหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  • วันจัดงาน : 7-9 พฤศจิกายน 2565

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2565

ผลิตภัณฑ์

 กล้องฟิล์มคิทเเคท



สำหรับ กล้องฟิล์ม รุ่นนี้จะมีทั้งหมด 3 ลายด้วยกัน แอดอยากจะบอกว่าน่ารักทุกสี เลือกไม่ถูกกันเลยค่ะ ใครอยากสะสมรีบไปสอยเลยที่ 7-11 เท่านั้น

ในส่วนราคาก็น่ารักไปอีก แค่ 369 บาทเบาๆ และสิ่งที่ได้มาในกล่องก็จะมี

-ตัวกล้องฟิล์ม

-เคสกันน้ำ 

-ฟิล์มในกล้อง 12 รูป

-ประกัน 6 เดือน

-คู่มือการใช้งาน

-ขนมคิดแคด 6 แพค

สำหรับข้อดีของกล้องรุ่นนี้ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนคือ สามารถเปลี่ยนฟิล์มได้

(รุ่นแรกแบบใช่แล้วทิ้งกดได้ 16รูป)


รีวิวภาพ































































เที่ยวไหน?

 อยากไปเที่ยว บ้านป่าหมาก  ชุมชนกลางธรรมชาติ  ประจวบคีรีขันธ์          บ้านป่าหมาก  เป็นชุมชนของชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงที่แอบซ่อนอยู่ท่ามกลา...